ค้นหา

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มาเที่ยวตลาดร้อยปีสามชุกที่จังหวัดสุพรรณบุรี่

ที่ตลาดร้อยปี สามชุก

 

  โดยตลาด 100 ปี สามชุกนับได้ว่าตลาดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งริมแม่น้ำสุพรรณบุรี(ท่าจีน) ที่ยังมีภาพบรรยากาศของบ้านเรือนรวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนในอดีตให้เราได้ชม   ในยุคสมัยที่ตลาดสามชุกเฟื่องฟู ชาวบ้านก็จะนำของพื้นเมืองมาแลกเปลี่ยนซื้อขายให้กับพ่อค้าชาวเรือ ต่อมาเมื่อบริเวณริมแม่น้ำสุพรรณบุรีมีการทำนากันมากขึ้น ตลาดสามชุกจึงกลายเป็นตลาดข้าวที่สำคัญ มีโรงสีไฟเกิดขึ้นหลายแห่ง การค้าขายเริ่มคึกคักและมีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในแต่ละปีมีการเก็บภาษีได้เป็นจำนวนมากและมีนายอากรคนแรก ชื่อ ขุนจำนง จีนารักษ์
      จากที่มีการตัดถนนผ่านสามชุก ส่งผลให้ตลาดสามชุกเริ่มซบเซาลง แต่ด้วยวิถีชีวิตของชุมชนตลาดสามชุกที่ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องแม้ว่า เวลาจะผ่านมานับร้อยปี ชาวตลาดสามชุกจึงได้ร่วมกันปรับปรุง ฟื้นฟู สถาปัตยกรรมไม้ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งเรียนรู้สำหรับชุมชน วันนี้ตลาดสามชุกจึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งและมีสิ่งน่าสนใจที่มีเสน่ห์ อยู่มากมาย

วิธีเดินทาง
การเดินทางด้วยรถยนตร์ สู่ตลาดสามชุก จากกรุงเทพฯ ผ่าน อ. บางบัวทอง จ. นนทบุรี ไปจนถึงตัว จ.สุพรรณบุรี ระยะทางประมาณ 107 กม. จากนั้นไปตามหลวงหมายเลข 340 แยกเข้า อ. สามชุก ตัวตลาดอยู่ริมแม่น้ำสุพรรณติดกับที่ว่าการอำเภอสามชุก

น้ำตกทีลอซูสวยงามมาก

น้ำตกทีลอซู


          เป็นภาษาของชาวกะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ แต่เดิมชาวกะเหรี่ยงเรียกน้ำตกนี้ว่า น้ำตกทีลอชู ที่แปลว่าน้ำตกที่ยิ่งใหญ่  ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ห่างจากที่ทำการเขตฯ 1.5 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 900 เมตร เกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อทั้งสายที่ไหลแผ่ปกคลุมพื้นที่หน้าผากว้างกว่า 500 เมตร ก่อนที่จะทะยานลงสู่หน้าผาสูงชันลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สูงกว่า 300 เมตร เสียงดังกึกก้องบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่จนชาวกะเหรี่ยงให้สมญานามว่า น้ำตกทีลอชู (น้ำตกใหญ่) รายล้อมไปด้วยป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์เป็นน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่และสวยที่ สุดในเมืองไทย น้ำใสสะอาด ฤดูฝนเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด การเดินเที่ยวชมน้ำตกแต่ละชั้นต้องเดินผ่านสายน้ำขึ้นไป จึงควรใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

          การเดินทางรถยนต์จากอำเภออุ้มผาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 1090 อุ้มผาง-แม่สอด ถึงหลักกิโลเมตรที่ 161 บ้านแม่กลองใหม่ เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1288 บ้านแม่กลองใหม่-เบิ้งเคลิ้ง ถึงด่านตรวจเดลอ เลี้ยวซ้ายเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ถนนช่วงนี้เป็นเส้นทางลำลองที่นักท่องเที่ยวต้องใช้รถปิคอัพ หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีสมรรถนะสูงเท่านั้น รวมระยะทาง 50 กิโลเมตร

         โดยการเดินทางท่องเที่ยวในฤดูฝนนี้ จะมีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางปิดเส้นทางเดินรถยนต์ เนื่องจากการสัญจรลำบาก และยังเป็นการพักฟื้นผืนป่าให้สัตว์ออกหากินและขยายพันธุ์โดยไม่ถูกรบกวน หากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะไปน้ำตกทีลอซูในช่วงนี้ ควรติดต่อบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากการเดินทางเข้าได้ 2 เส้นทาง คือ ล่องเรือยางจากท่าทราย อำเภออุ้มผาง ไปตามลำน้ำแม่กลองใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หรือ เดินเท้าตามเส้นทางรถจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์เดินทางเข้าในช่วงเวลาดังกล่าวต้องได้รับ อนุญาตจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผางก่อนทุกครั้ง

มีงานประเพณีวิ่งควาย จังหวัดชลบุรี

งานประเพณีวิ่งควาย จังหวัดชลบุรี


           ที่จังหวัดชลบุรี มีการร่วมกับเทศบาลเมืองชลบุรี ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา จัดงาน ประเพณีวิ่งควาย ครั้งที่ 139 ประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 16 – 22 ตุลาคม 2553 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี ทั้งนี้ ประเพณีวิ่งควาย เป็นงานประเพณีประจำจังหวัดชลบุรี เป็นหนึ่งในประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดชลบุรีที่มีการจัดมากว่า 100 ปีแล้ว ประเพณีวิ่งควาย เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 หรือก่อนออกพรรษา 1 วัน เพื่อเป็นการทำขวัญควายและให้ควายได้พักผ่อน หลังจากตรากตรำกับการงานในท้องนามายาวนาน นอกจากนี้ ประเพณีวิ่งควาย ยังเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อควายที่เป็น สัตว์มีบุญคุณต่อชาวนาและคนไทยอีกทั้งยังเพื่อให้ชาวบ้านได้มีโอกาสพักผ่อน มาพบปะสังสรรค์กันในงานวิ่งควาย โดยชาวไร่ ชาวนาจะตกแต่งควายของตนอย่างสวยงาม และนำควายมาชุมนุมกันที่บริเวณสนามหน้าอำเภอเมืองชลบุรี มีการแข่งขันวิ่งควาย ประกวดสุขภาพควาย ประกวดการตกแต่งควาย ประกวดนางงาม "น้องนางบ้านนา" เป็นต้น ขบวนแห่กัณฑ์เกวียน 13 กัณฑ์ ขบวนวัฒนธรรม ริ้วขบวนคำขวัญจังหวัดชลบุรี ขบวนน้องนางบ้านนา ขบวนตกแต่งควายสวยงาม ตลกขบขัน ขบวนหน่วยงานต่าง ๆ การ แข่งขันวิ่งควาย การประกวดสุขภาพควาย การแข่งขันกีฬาไทยพื้นบ้าน อาทิ ชักเย่อ ปีนเสาน้ำมัน ยิงเป้าหนังสติ๊ก ชกมวย ตะกร้อลอดบ่วง ตัดว่าว ฯลฯ การแข่งขันแกะหอยแมลงภู่ การแข่งขันกินหอยทอด ประเภทกินจุและกินเร็ว การออกร้านจำหน่ายสินค้า หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การแสดงศิลปวัฒนธรรม

ประวัติจังหวัดชัยภูมิ เมืองแห่งผู้กล้า

ชัยภูมิ เมืองแห่งผู้กล้า
โดยมีอาณาเขตดังนี้
ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัด ขอนแก่น
ทิศใต้ ติดกับจังหวัดนครราชสีมา
ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดนครราชสีมา
ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดลพบุรี

ประวัติโดยย่อ
        จังหวัดชัยภูมิ  มีที่ตั้งอยู่บนสันขอบที่ราบสูงอีสาน โดยมีพื้นที่ติดต่อกับภาคกลางและภาคเหนือ เป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกกระเจียวแสนงาม และสายน้ำตกชุ่มฉ่ำยามหน้าฝน เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน มีเทือกเขาที่สำคัญได้แก่ ภูพังเหย ภูแลนคา ภูพญาฝ่อ อันเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำชี ด้านประวัติศาสตร์ ชัยภูมิมีอารยธรรมซ้อนทับกันหลายสมัย ตั้งแต่สมัยทวารวดี สมัยขอม จนถึงอิทธิพลลาวล้านช้าง มีการค้นพบโบราณสถานโบราณวัตถุมากมายในหลายพื้นที่ของจังหวัด ต่อมาปรากฏชื่อเป็นเมืองหน้าด่านในสมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชกาลสมเด็จพระ นารายณ์มหาราช ภายหลังจึงร้างไป และมาปรากฏชื่ออีกครั้งในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ โดยมีชาวเวียงจันทน์เข้ามาสร้างบ้านแปงเมือง มีผู้นำชื่อ แล ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองคนแรกของชัยภูมิ ชัยภูมิอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 342 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 12,778 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองเป็น 16 อำเภอ คือ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอคอนสวรรค์ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอหนองบัวแดง อำเภอจัตุรัส อำเภอภูเขียว อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอบ้านแท่น อำเภอแก้งคร้อ อำเภอคอนสาร อำเภอเทพสถิต อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอภักดีชุมพล อำเภอเนินสง่า และอำเภอซับใหญ่

วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มาดูตลาดนัดจตุจักรที่จังหวัดกรุงเทพฯ

         ตลาดนัดจตุจักรจะมาการขายสินค้ามากมายอาทิเช่น สินค้าที่จำหน่าย อาทิ พระเครื่อง พระบูชา หนังสือ ต้นไม้ ภาพเขียน เสื้อผ้า พืชผลทางการเกษตรหินประดับ ไก่ชน บอนไซ เครื่องจักสาน สัตว์เลี้ยง อาหารสด อาหารแห้ง เครื่องเซรามิค และสินค้าเบ็ดเตล็ด
    
ประวัติ
         เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๑ สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบาย การจัดตลาดนัดทั่วทุกจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เฉพาะในกรุงเทพมหานครได้เลือกบริเวณสนามหลวงเป็นสถานที่จัดตลาดนัด เป็นศูนย์รวมสินค้านานาชนิดทั่วทุกภาครวมทั้งสินค้าจากต่างประเทศเข้ามา จำหน่ายมากมาย ซึ่งจอแจแออัดแน่นขนัดล้นหลามไปด้วยผู้คนเป็นที่นิยมและรู้จักกันทั่วไปทั้ง ชาวไทยและต่างประเทศ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๒ ทางราชการจำเป็นต้องใช้พื้นที่สนามหลวงจัดพระราชพิธีต่างๆ และต้องปรับปรุงพื้นทางเท้ารอบสนามหลวงเป็นคอนกรีตจำต้องย้ายไปจัดตลาดนัด ที่พระราชอุทยานสราญรมย์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ ทางราชการต้องการใช้พระราชอุทยานสราญรมย์เป็นสถานที่พักผ่อน หรือ สวนสาธารณะ และเป็นที่จัดประกวดนางสาวไทยจำต้องย้ายไปจัดตลาดนัดที่สนามหลวงตามเดิมเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๑ สมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบายจะใช้สนามหลวงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และใช้เป็นที่จัดงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี และใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ ต่อมากรุงเทพมหานคร (เทศบาล) ได้ใช้งบประมาณสร้างถนนอาคารและปรับปรุงสถานที่จำหน่ายสินค้าและย้ายการจัด ตลาดนัดที่สนามหลวงมาจัดที่พหลโยธิน ให้ชื่อตลาดว่า ตลาดนัดย่านพหลโยธิน และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า ตลาดนัดจตุจักร

ทะเลที่ จ.ตรัง สวยงาม น่าพักผ่อน

          ทะเลตรัง นับเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอันดามัน ที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูงแห่งหนึ่ง เสน่ห์ทะเลตรังอยู่ที่น้ำทะเลสวยใส หาดทรายขาว และเกาะน้อยใหญ่เรียงรายอยู่ไม่ไกลจากฝั่งเท่าใด เกาะที่สำคัญทางการท่องเที่ยวและสวยงามมีอาทิ เกาะไหง เกาะกระดาน ส่วนเกาะเชือกและเกาะม้าเป็นเกาะที่มีปะการังน้ำตื้นให้ดำดูได้ และที่แปลกประหลาดที่สุด คือ ถ้ามรกตบนเกาะมุกในเขตอุทยานแห่งชาติเอาไว้นอกจากนั้นชายหาดไหม ที่ซุ่มซ่อน ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเอาไว้ นอกจากนั้นชายหาดอุทยานแห่งชาติเอาไว้ นอกจากนั้นชายหาดอุทยานแห่งชาติเจ้าไหมก็นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อีกบริเวณหนึ่งโดยเฉพาะ หาดปาดเม็ง คลองฉางหลาง และหมู่บ้านประมงหาดเจ้าไหม ถ้ำประหลาด กลางทะเล มุดลอดเข้าไปจะพบทรายขาวและต้นไม้ซ่อนอยู่ใจกลางเกาะ การเข้าถึงต้องลอยคอในน้ำสอดถ้ำอันมืดมิด เข้าแถวเรียงหนึ่งตามคนนำทาง จับคนข้างหน้าไว้ให้มั่นไม่งั้นอาจหลงทางได้ ใครเชื่อว่า เมื่อพ้นความมืดมิด ยามแสงอาทิตย์ทำมุมพอเหมาะทั้งเกาะและเวิ้งถ้ำก็พลันกลายเป็นสีเขียวมรกตงด งามถ้ำมรกต จ.ตรัง

เรามีรู้จักจังหวัดอ่างทองกันนะครับ

        อ่างทอง เป็นจังหวัดซึ่งอุดมไปด้วยงานหัตถกรรมพื้นถิ่นไม่ว่าจะเป็นการทำอิฐดินเผา งานปั้นตุ๊กตาชาววัง การทอผ้า การทำเครื่องเงิน การผลิตเครื่องจักสาน การทำกลอง ทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดเพลงพื้นบ้านลิเก เป็นจังหวัดของวีรชนคนกล้าในศึกบางระจัน และยังมีวัดมากมายกว่า 200 วัดอันเป็นสถานที่น่าศึกษาประวัติศาสตร์ และเรื่องราวความเป็นมาในอดีตของชาติไทย

        อ่างทองมีเดิมชื่อ เมืองวิเศษชัยชาญ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อยบนพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของกรุงศรีอยุธยาในการสู้รบกับกองทัพพม่า ดังปรากฏในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาหลายตอน โดยเฉพาะในช่วงก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกในปีพ.ศ. 2310 พม่าได้ใช้แขวงเมืองวิเศษชัยชาญเป็นที่ตั้งค่าย เพื่อตีกรุงศรีอยุธยา และทำให้เกิดการสู้รบครั้งสำคัญ ที่จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทย นั่นคือ ศึกบางระจัน ปลายสมัยกรุงธนบุรีได้ย้ายที่ตั้งเมือง มาอยู่บริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาที่บ้านบางแก้ว เรียกชื่อใหม่ว่า อ่างทอง เนื่องจากเป็นที่ลุ่มและอู่ข้าวอู่น้ำอัน เป็นเสมือนขุมทรัพย์ที่มีค่า

       จังหวัดอ่างทองเป็นจังหวัดเล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนล่าง มีเนื้อที่ 968 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านสองสาย คือ แม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดอ่างทองแบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอแสวงหา อำเภอป่าโมก อำเภอโพธิ์ทอง อำเภอไชโย และอำเภอสามโก้ 

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เรามาดูหมู่เกาะสิมิลัน ของจังหวัดพังงา

       เกาะสิมิลัน

        เรามาดูหมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะกลางทะเลอันดามันที่เป็นเลิศในความงามของปะการังแห่งหนึ่งของโลก “สิมิลัน” เป็นภาษายาวีหรือมลายู แปลว่า “เก้า” ชาวประมงบางคนจึงเรียกว่า หมู่เกาะเก้า ประกอบด้วย เกาะใหญ่น้อย 9 เกาะด้วยกัน เรียงตัวตามแนวทิศเหนือไปทิศใต้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันประกอบด้วย เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง หมู่เกาะสิมิลัน เป็นอุทยานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2525 ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา และในปี 2541 ได้ผนวกรวมเกาะตาชัย ทำให้มีพื้นที่ทั้งหมด 140 ตารางกิโลเมตร

วันนี้เรามาดู เมืองบั้งไฟ จังหวัดยโสธร


เมืองบั้งไฟ จังหวัดยโสธร

     ในพงศาวดารของเมืองยโสธรได้บันทึกไว้ว่า เมื่อราวๆ ปี พ.ศ. 2340 พระเจ้าวรวงศา (พระวอ)  เสนาบดีเก่าเมืองเวียงจันทน์กับสมัครพรรคพวกเดินทางอพยพจะไปอาศัยอยู่กับ เจ้านครจำปาศักดิ์ เมื่อเดินทางถึงดงผีสิงห์เห็นเป็นทำเลดี จึงได้ตั้งหลักฐานและสร้างเมืองที่นี่เรียกว่า “บ้านสิงห์ท่า” หรือ “เมืองสิงห์ท่า” ต่อมาใน พ.ศ. 2357 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกฐานะบ้านสิงห์ท่าแห่งนี้ขึ้นเป็น “เมืองยโสธร” ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ มีเจ้าเมืองดำรงบรรดาศักดิ์เป็นพระสุนทรราชวงศา

     เมื่อปี พ.ศ. 2515 ได้ยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดยโสธร โดยประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 70 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2515 ได้แยกอำเภอยโสธร อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอมหาชนะชัย อำเภอป่าติ้ว อำเภอเลิงนกทา และอำเภอกุดชุม ออกจากจังหวัดอุบลราชธานี และรวมกันเป็นจังหวัดยโสธร ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2515

     ที่จังหวัดยโสธรมีเนื้อที่ประมาณ 4,161 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีขนาดเล็กที่สุดในเขตอีสานตอนล่าง จังหวัดยโสธรแบ่งการปกครองออกเป็น 9 อำเภอ คือ อำเภอเมืองยโสธร คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย ป่าติ้ว เลิงนกทา กุดชุม ค้อวัง ทรายมูล และไทยเจริญ

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวที่ภูเก็ต บรรยากาศสวย

       
             โดยเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ล้อมรอบด้วยน้ำอุ่นของเธอในทะเลอันดามันหาดทรายที่สวยงาม แปลกเกาะที่มีรูปร่าง ถ้ำหินย้อยถ้ำธรรมชาติและภูมิทัศน์ธรรมชาติอื่น ๆ ประกอบกับน้ำทะเลชายฝั่ง สีฟ้าใส โลกใต้ทะเลที่สวยงาม เกาะภูเก็ตเรียกว่า ”สวรรค์เขตร้อน” ไม่ได้พูดเกินจริง  “ภูเก็ต” ในระยะเริ่มต้นมาจากประเทศมาเลเซียแทนโดยหมายถึง”ฮิลล์. มันเป็นเมืองที่เล็กที่สุดกับภาคใต้ของประเทศไทยมี 862 กม. จากเมืองหลวงกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่ปกครองพื้นที่เขต อำนาจของเกาะครอบคลุม 543 ตารางกิโลเมตรเหนือจรดใต้และ 48 กม.  21 กม. ทางทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตกครอบคลุมพื้นที่เกี่ยวกับสิงคโปร์ คล้ายกับภูมิประเทศเป็นเกาะหลักกลิ้งภูเขา จุดที่มีในระหว่างหรืออ่าง และ 39 หมู่เกาะ คนมักจะกล่าวว่าภูเก็ตเป็น ”ไข่มุกแห่งประเทศไทย” และนี่เป็นเงามุก 5 ปีสาเหตุหลักมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของการผลิตดีบุกมีแหล่งเงินทุน เพียงพอที่จะนำรายได้ ประเทศไทยปัจจุบันของโลกที่ 3 ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของดีบุกมากที่สุดของภูเก็ตเป็นน้ำจากพื้นที่น้ำจืด นอกจากดีบุกขณะนี้มีประชากรของเกาะในการขยายตัวของอุตสาหกรรมยางส่วนที่ เหลือเป็นข้าว มะพร้าวและผลไม้หรืออาศัยในเรือประมงในการดำรงชีวิตประจำวันในภูมิภาพ ทัศนียภาพอันงดงามของจังหวัดภูเก็ตและใกล้เคียงอ่าวพังงาดึงดูดนักท่อง เที่ยวต่างชาติจำนวนมากทุกเพศทุกวัยหากคุณต้องการเพื่อเข้าชมป่าที่เต็มไป ด้วยความสนุกสนาน เป็นทางเลือกที่ดีมากเช่นเดียวกับในแหลมทางใต้ที่เรียกว่าเป็นเพื่อนนางฟ้า อ้างคาบสมุทรเป็นสถานที่ที่ดีในการเพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกดิน อื่น ๆ มีมูลค่าการกล่าวขวัญว่ามีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำภูเก็ต เพิร์ลฟาร์มและหมู่บ้านไทยและสวนกล้วยไม้และ หญิงอนุสาวรีย์ทหารและสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ สนามกอล์ฟบนเกาะไม่เพียง แต่งดงาม แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นมืออาชีพสนามกอล์ฟมาตรฐานโลกและความต้องการของผู้ เล่นสูงไม่เต็มใจที่จะออกจากที่ไม่ได้รับความสนุกสนานของหาดคุณอาจได้รับใน ไร้สาระสำหรับมัน ภูเก็ตภูมิใจที่สุดคือด้านตะวันตกของเกาะเป็นเจ้าของใกล้ทะเลอันดามัน มากกว่า 10 หาดทรายที่สวยงามเช่นหาดป่าตอง สุรินทร์บีช (หาดสุรินทร์) หาดในหาน (หาดในหาน ) และเพื่อที่ฉันเห็นหาดทรายที่สวยงามจุดที่มีร่มสีสันแสงและเงาในข้ามนี้คน ทั้งตื่นเต้นและมีการเร่งเรือในอ่าว ฝั่งดวงอาทิตย์หรือการเล่นในน้ำนี้เสียงหัวเราะจากผู้เข้าชม เขาคิดค่าบริการสำหรับหลาย ๆ คนแล้วความสุขของความรู้สึกมามากที่จะกำไรที่ใหญ่ที่สุด ในหมู่เกาะห่างไกลได้กลายเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลในปี 1981 อ่าวพังงาเป็นที่รู้จักกันดีเป็นกรณีที่สองซึ่งกว่า 40 เกาะรวมทั้งการสะสมของถ้ำหินปูนจำนวนมากเกิดขึ้นจากการ stalactites ความงามหินงอกรูปร่างและความหลากหลาย  ที่มีชื่อเสียง  เกาะและเกาะที่เต็มไปด้วยหินย้อยขาวใส  เพื่อที่คุณจะสามารถลิ้มรสที่เป็นของเกาะใต้ใน วิธีที่ไม่ซ้ำกันของชีวิตที่ทะเลและของขวัญของธรรมชาติให้แก่ที่นี่